วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

การเข้าระบบ และการติดตาม

การติดตามคืออะไร
คุณมีบล็อกที่โปรดปราน และต้องการให้ผู้เขียนและผู้ือ่านทราบว่าคุณเป็นแฟนประจำหรือไม่ ขณะนี้คุณสามารถทำได้ และ ทำได้มากกว่านั้น ด้วยคุณลักษณะการติดตามของ Blogger! คุณสามารถเฝ้าดูบล็อกที่คุณติดตาม ผ่านทาง รายการเรื่องรออ่าน บนกระดานข้อมูล Blogger
ฉันจะเป็นผู้ติดตามบล็อกได้อย่างไร
คุณสามารถเป็นผู้ติดตามบล็อกได้หลายวิธี วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการเข้าสู่บล็อกที่เพิ่ม Widget การติดตาม และและคุณจะพบหน้าต่างป็อปอัปพร้อมด้วยตัวเลือกที่จะติดตามแบบ สาธารณะหรือแบบไม่ระบุชื่อ:คลิกที่ลิงค์ ติดตามบล็อกนี้ ใต้ widget ผู้ติดตาม


ฉันไม่สามารถเข้าระบบ ฉันควรทำอย่างไร
หมายเหตุ: ถ้าคุณประสบปัญหาในการเข้าระบบ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ Blogger รุ่นใหม่ โปรดอ่านบทความของเรา ที่นี่
โปรดเลือกปัญหาที่พบจากรายการด้านล่าง:
ลืมชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน
ไม่ได้รับอีเมลการเรียกคืนรหัสผ่าน
ลืมที่อยู่อีเมล
ไม่สามารถเข้าถึงที่อยู่อีเมลสำหรับการเรียกคืนข้อมูลการเข้าสู่ระบบ
เกิดข้อผิดพลาด "รหัสผ่านไม่ถูกต้อง" แม้ว่าจะใช้รหัสผ่านที่ถูกต้อง
ได้รับข้อความให้เข้าสู่ระบบอย่างต่อเนื่อง หรือข้อความ "เซสชันหมดอายุ"
ทางออกสุดท้าย
ลืมชื่อผู้ใช้ และ/หรือ รหัสผ่านใน Blogger รุ่นใหม่
ถ้าคุณลืมข้อมูลบัญชีผู้ใช้ Google ของคุณ คุณสามารถเรียกคืนข้อมูลการเข้าสู่ระบบของบัญชีผู้ใช้ Google ได้โดยคลิก '?' ถัดจาก "รหัสผ่าน" บนหน้าเข้าสู่ระบบของ Blogger หรือไปที่หน้านี้:
https://www.google.com/accounts/ForgotPasswd
ลืมชื่อผู้ใช้ และ/หรือ รหัสผ่านใน Blogger รุ่นเดิม
คุณสามารถเรียกคืนชื่อผู้ใช้หรือตั้งค่ารหัสผ่านใหม่ได้ที่นี่: http://www.blogger.com/forgot.g
ฟอร์มนี้จะส่งอีเมลไปยังที่อยู่อีเมลที่ลงทะเบียนไว้ในบัญชีของคุณ อีเมลนี้จะรวมลิงก์ไปยังหน้าที่จะแสดงชื่อผู้ใช้ของคุณ และอนุญาตให้คุณสร้างรหัสผ่านใหม่ ถ้าคุณมีชื่อผู้ใช้หลายชื่อ คุณจะพบรายการชื่อผู้ใช้ และคุณจะสามารถเลือกว่าต้องการตั้งค่ารหัสผ่านใหม่สำหรับชื่อผู้ใช้ใด
ไม่ได้รับอีเมลการเรียกคืนรหัสผ่าน
ตรวจสอบโฟลเดอร์อีเมลสแปม/ขยะ/อีเมลที่ส่งถึงผู้รับจำนวนมาก เผื่อว่าข้อความมีการจัดการผิดพลาด
ลองใช้ที่อยู่อีเมลหลายๆ ที่ ในกรณีที่คุณไม่ได้ใช้ที่อยู่อีเมลหลักสำหรับ Blogger
ลองเรียกคืนชื่อผู้ใช้ของคุณแทนที่จะเรียกคืนรหัสผ่าน คุณอาจจำรหัสผ่านผิดพลาด และส่งอีเมลเรียกคืนรหัสผ่านไปยังผู้ใช้รายอื่น (เราขอแนะนำให้ทดลองดำเนินการนี้ แม้ว่าคุณจะคิดว่าจำชื่อผู้ใช้ได้แน่นอนก็ตาม)
ลืมที่อยู่อีเมล
ถ้าคุณจำไม่ได้ว่าใช้ที่อยู่อีเมลใดเมื่อสร้างบัญชี ให้เริ่มต้นด้วยการจดรายชื่อที่อยู่อีเมลของคุณ (รวมถึงที่อยู่อีเมลเก่าที่คุณอาจใช้เมื่อสมัครเข้าใช้งาน) จากนั้นป้อนแต่ละที่อยู่ใน ฟอร์มการเรียกคืนชื่อผู้ใช้ ที่อยู่อีเมลส่วนใหญ่จะแสดงข้อผิดพลาด จนกว่าจะพบที่อยู่หนึ่งที่คุณใช้งานจริง ซึ่งคุณจะพบข้อความแจ้งว่ามีการส่งชื่อผู้ใช้ของคุณแล้ว
ไม่สามารถเข้าถึงที่อยู่อีเมลสำหรับการเรียกคืนข้อมูลการเข้าสู่ระบบ
ถ้าคุณลงชื่อเข้าใช้ด้วยที่อยู่อีเมลเก่าที่คุณไม่สามารถเข้าใช้แล้ว หรือถ้าคุณพิมพ์ที่อยู่อีเมลผิดเมื่อลงทะเบียน คุณจะไม่สามารถใช้ฟังก์ชันการเรียกคืนการเข้าสู่ระบบได้ ในกรณีนี้ คุณจะต้อง ติดต่อเรา เพื่อขอความช่วยเหลือ และเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการให้บริการ โปรดระบุข้อมูลต่อไปนี้:
ที่อยู่อีเมลเดิมที่คุณใช้ลงทะเบียน พร้อมด้วยที่อยู่อีเมลปัจจุบัน
ชื่อผู้ใช้ของคุณ ถ้าทราบ
ชื่อและนามสกุลที่คุณใช้ลงทะเบียนในบัญชีของคุณ
URL บล็อกของคุณ
เกิดข้อผิดพลาด "รหัสผ่านไม่ถูกต้อง" แม้ว่าจะใช้รหัสผ่านที่ถูกต้อง
ถ้าคุณมั่นใจว่าใช้รหัสผ่านที่ถูกต้อง แต่ยังพบข้อผิดพลาดเกี่ยวกับรหัสผ่าน เป็นไปได้มากว่าปัญหานั้นเกิดจากชื่อผู้ใช้ของคุณ กรณีนี้อาจชวนให้สับสนอยู่บ้าง แต่ถ้าคุณใช้ชื่อผู้ใช้ของคนอื่น รหัสผ่านของคุณเองจะไม่ตรงกับชื่อผู้ใช้นี้ และ Blogger จะแสดงข้อผิดพลาด เนื่องจากคิดว่าคุณคือบุคคลที่เป็นเจ้าของชื่อผู้ใช้นั้น ซึ่งพยายามเข้าสู่ระบบ สิ่งที่ควรทำในกรณีนี้ก็คือ เรียกคืนชื่อผู้ใช้ของคุณ
ได้รับข้อความให้เข้าสู่ระบบอย่างต่อเนื่อง หรือข้อความ "เซสชันหมดอายุ"
ถ้าคุณกลับสู่หน้าจอเข้าสู่ระบบซ้ำๆ โดยไม่มีข้อความแจ้งเกี่ยวกับชื่อผู้ใช้หรือรหัสผ่านผิดพลาด แสดงว่าปัญหาเกิดจากเบราว์เซอร์ของคุณไม่ได้เก็บข้อมูลการเข้าสู่ระบบไว้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้คุณยังอาจพบข้อความ "เซสชันหมดอายุ" (Session Expired) ในกรณีนี้ ในการแก้ไขปัญหานี้ คุณต้องแก้ไขปัญหาของเบราว์เซอร์ โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:
ล้างข้อมูลแคช
ลบคุกกี้ Blogger ของคุณ
ตรวจสอบ การตั้งค่าคุกกี้
ตรวจสอบการตั้งค่าจาวาสคริปต์
ออกจากเบราว์เซอร์และเริ่มต้นใหม่
ใช้เบราว์เซอร์อื่น
ใช้เว็บอย่างสนุก—ใครๆ ก็ใช้กัน
โปรดทราบว่าถ้าคุณมีไฟร์วอลล์ คุณควรตรวจสอบการตั้งค่าคุกกี้ของไฟร์วอลล์ด้วย ถ้าต้องการตรวจสอบให้แน่ใจว่าสามารถใช้คุกกี้ของ Blogger โปรดตรวจสอบคู่มือหรือเอกสารสำหรับไฟร์วอลล์เพื่อดูข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้
ทางออกสุดท้าย
เริ่มต้นคอมพิวเตอร์ของคุณใหม่
ลองใช้คอมพิวเตอร์เครื่องอื่น
ลองใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอื่น
หายใจลึกๆ โลกยังไม่หยุดหมุน เขียนถึงเรา เพื่อขอความช่วยเหลือ โปรดอย่าลืมบอกข้อมูลกับเราให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เกี่ยวกับบัญชีของคุณ และปัญหาที่คุณพบ

การหาแผนที่

เข้าไปที่http://www.google.co.th/แล้วคลิกGoogle.com in English









คลิกที่ Maps











พิมพ์สถานที่ที่ต้องการค้นหาลงไป คลิกที่ search Maps











แล้วจะเจอแผนที่ตามต้องการ ถ้าอยากให้ภาพมีขนานใหญ่ขึ้นให้คลิกที่เครื่องหมายบวกข้างแผนที่

แต่งภาพด้วย http://www.photofunia.com/

เริ่มจากเข้าไปที่ http://www.photofunia.com/











คลิกที่รูปภาพที่ต้องการ












คลิก Browse... นำรูปจากแฟ้มที่ต้องการมาวาง คลิก Open












จากนั้นก็จะได้ภาพที่เราต้องการอย่างสวยงาม








สูตรลดความอ้วน สูตรที่ 1

สูตรนี้ถ้าปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และไม่โกงตัวเอง รับรองว่าจะลดน้ำหนักได้สัปดาห์ละ 5 กิโลกรัมโดย 3 วันแรกลดได้ถึง 3 กิโลกรัม ข้อห้าม งดเหล้า ไวน์ น้ำหวาน น้ำอัดลมทุกชนิด ชา กาแฟ ได้นิดหน่อย แต่ห้ามใส่น้ำตาลห้ามรับประทานถั่ว ,ข้าวโพด ทุกชนิด
เริ่มวันแรก รับประทานผลไม้ทุกมื้อ โดยเฉพาะ แตงทุกชนิด เพราะมีแคลอรีต่ำ (ยกเว้นแตงกวา) ไม่มีแป้ง น้ำตาล (ส่วนอย่างอื่นงดหมด)
วันที่สอง จะเป็นผักทุกชนิด เช่น สลัดผัก มันฝรั่งนึ่งหรือเผา 1 หัว ใส่เนยก้อนเล็กๆเกลือ พริกไทย ซอสมะเขือเทศเพิ่มรสชาติ หรือจะดัดแปลงเป็นอาหารไทย เช่น เห็ดผัดกับน้ำพริกแกง,น้ำพริกเผา ช่วยให้ไม่เบื่ออาหาร (ที่สำคัญอย่างอื่นต้องงดเช่นเดียวกัน)
วันที่สาม ผักและผลไม้ ผสมกันรับประทานได้ทั้ง
วันวันที่สี่ กล้วยหอม 3 ใบ แบ่งรับประทานมื้อละ 1 ใบ ตามด้วยนมพร่องไขมัน มื้อละ 1 แก้ว
วันที่ห้า สามารถทานเนื้อสัตว์ได้ 10-20 กรัม (ประมาณชิ้นหรือสองชิ้นเล็กๆนั่นแหละ) ทานกับมะเขือเทศ 6 ลูก โดยน้ำไปอบ หรือย่าง แล้วลอกเปลือกออก แบ่งรับประทานเป็น 2-3 มื้อก็จะดี
วันที่หก รับประทานได้ทั้งเนื้อปลา ไก่ เนื้อ ทั้ง 3 มื้อ แค่พออิ่ม โดยรับประทานกับสลัดผัก
วันที่เจ็ด วันสุดท้ายแล้ว ให้เป็นข้าวซ้อมมือ กับผัก (ไม่มีเนื้อสัตว์) แนะนำให้นำข้าวไปคลุก น้ำปลา หรือผัดกับน้ำพริกเผา ผัดร้อนๆ โดยใส่ผักลงไปด้วยก็ได้ โดยไม่มีเนื้อสัตว์
เมื่อครบ 7 วัน ก็หมุน เมนูไปรับประทานเหมือนวันแรก ทำเช่นนี้เป็นประจำทุกสัปดาห์ หรือจะเสริมด้วยซุปที่รับประทานได้ทุกวัน (ยกเว้นวันแรก)ซุปสูตรลดความอ้วนประกอบด้วย เซลอรี 1 ต้น กะหล่ำปลี หอมหัวใหญ่ 6 หัวพริกยักษ์ 1 เม็ด มะเขือเทศ 4 ลูก หั่นใส่รวมกัน ใส่น้ำพอท่วมผัก เติมพริกไทย เกลือ ซอสพริก เพื่อเพิ่มรสชาติ ต้มจนเปื่อย



สูตรลดความอ้วน สูตรที่ 2
สูตรนี้เอามาจากโต๊ะจตุจักร
วันที่ 1เช้า กาแฟ หรือ ชา ไม่ใส่น้ำตาลและครีมเทียม 1 ถ้วยขนมปังปิ้ง 1 แผ่น (โฮลวีทได้ก็จะดีมาก)ถั่ว baked bean 120 กรัม (ถั่วในซอสมะเขือเทศ)ส้ม 1 ลูกกลางวัน กาแฟ หรือชา 1 ถ้วยขนมปังปิ้ง 1 แผ่นปลาทูน่า 120 กรัมเย็น ถั่วฝักยาวต้ม 120 กรัมบีทรูท หรือ แครอท ต้ม 120 กรัมแฮมไก่ 2 แผ่น (หมูไม่ได้)ไอศกรีม วานิลา 1 ถ้วยเล็ก
วันที่ 2เช้า กาแฟหรือ ชา 1 ถ้วยขนมปังปิ้ง 1 แผ่นไข่ต้ม 1 ฟองกล้วยหอม 1/2 ผลกลางวัน แครกเกอร์แบบเค็ม 5 แผ่นชีส low fat 1 แผ่น (อาจเปลี่ยนเป็น โยเกิร์ตรสธรรมชาต)เย็น บล๊อคโครี่ กับแครอท ต้ม อย่างละ 120 กรัมแฮมไก่ 2 แผ่นกล้วยหอม 1/2 ผลไอศกรีม วานิลา 1 ถ้วยเล็ก
วันที่ 3เช้า กาแฟหรือ ชา 1 ถ้วยแครกเกอร์ เค็ม 5 แผ่นชีส low fat 1 แผ่นแอ๊ปเปิ้ล 1 ผลกลางวัน กาแฟหรือชา 1 ถ้วยขนมปังปิ้ง 1 แผ่นไข่ต้ม 1 ลูกเย็น ดอกกะหล่ำต้ม กับ แครอท อย่างละ 120 กรัมทูน่า 120 กรัมแตงไทย หรือ แคนตาลูป 1 ชิ้นไอศกรีมวานิลา 1 ถ้วยเล็ก
จบแล้ว สำหรับสูตร 3 วัน เห็นเพื่อนๆ ลดได้คนละ 2-3 กก. ขอให้โชคดีนะจ๊ะ อย่าลืมออกกำลังกาย



สูตรลดความอ้วน สูตรที่ 3

สูตรลดความอ้วน 9 กิโลกรัม ภายใน 2 อาทิตย์
วันที่ 1เช้า...ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้าตาลกลางวัน... ไข่ต้มสองลูก+ผักต้มเย็น...สเต็กกับสลัดผักน้ำใส และผลไม้
วันที่ 2เช้า...ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้าตาล+ขนมปังโฮลวีตปิ้ง 1 แผ่นกลางวัน... สเต็กหรือเนื้อหมู เนื้อวัวย่างก็ได้+สลัดผักเขียวและผลไม้เย็น...แฮมแผ่นต้มปริมาณเท่าไรก็ได้ตามใจ
วันที่ 3เช้า...ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้าตาล+ขนมปังโฮลวีตปิ้ง 2 แผ่นกลางวัน...ไข่ต้ม 2ฟอง+สลัด+แครอทเย็น...แฮมแผ่นต้มปริมาณเท่าไรก็ได้ตามใจ
วันที่ 4เช้า...ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้าตาล+ขนมปังโฮลวีตปิ้ง 1 แผ่นกลางวัน..ไข่ต้ม 1 ฟองกับแครอทต้มเย็น...ผลไม้และโยเกริ์ตรสธรรมชาติ
วันที่ 5เช้า...ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้าตาลกลางวัน...ปลาเผาหรือปลาย่างกับผักต้มเย็น...เต็กหรือเนื้อย่างไม่ติดมัน+สลัดผักสดน้ำใส
วันที่ 6เช้า...ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้าตาลกลางวัน...ไก่ย่างไม่ติดหนังเย็น..ไข่ต้มสองฟองและแครอทต้ม
วันที่ 7เช้า...กาแฟหรือชาบีบมะนาว ไม่ใส่น้ำตาลกลางวัน...ผลไม้อะไรก้ได้ในปริมาณที่ต้องการเย็น..อะไรก็ได้ทุกอย่างที่อยากทานไม่จำกัดปริมาณ
สูตรนี้มาจากหนังสือ looking goodของคุณภัทรียา ณ นคร ผู้เขียนบอกว่า
เมื่อทานครบทั้ง 7 วันก็ให้เริ่มวันที่ 8 โดยย้อนกลับไปใหม่ ถ้าทำได้ตามสูตรเป๊ะ โดยไม่ดื่มน้ำอัดลม+แอลกอฮอลล์ จะลดความอ้วนได้ 9 กก.ใน 2 อาทิตย์ โดยไม่เกิดปฏิกิริยาโยโย่ ซึ่งพอหยุดแล้วอ้วนขึ้นมากกว่าเก่า


สูตรลดความอ้วน สูตรที่ 4
วันที่ 1มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล ส้มโอ 1/2 ผล ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น ถั่วเหลืองในซอสมะเขือเทศมื้อกลางวัน : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล ปลาทูน่า 4 ออนซ์ ขนมปังปิ้ง 1 แผ่นมื้อเย็น : แฮม 2 แผ่น ถั่วฝักยาวต้ม 4 ออนซ์ (ประมาณ 115 กรัม) ไอศกรีมวนิลา 4 ออนซ์ บีทรูทต้ม 4 ออนซ์
วันที่ 2มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น ไข่ต้ม 1 ฟอง กล้วยหอม 1/2 ผลมื้อกลางวัน : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล แคร๊กเกอร์ (แบบเค็ม) 5 แผ่น Coltage Cheese (คล้ายโยเกิร์ต) ของโฟร์โมสต์ 120 กรัมมื้อเย็น : แฮม 2 แผ่น บร็อคคอลรี่ต้ม 4 ออนซ์ แครอทต้ม 4 ออนซ์ ไอศกรีมวนิลา 4 ออนซ์ กล้วยหอม 1/2 ผล
วันที่ 3มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล แคร๊กเกอร์ (แบบเค็ม) 5 แผ่น Cheddar Cheese 1 แผ่น แอ๊ปเปิ้ล 1 ผลมื้อกลางวัน : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น ไข่ต้ม 1 ฟองมื้อเย็น : ปลาทูน่า 4 ออนซ์ บีทรูทต้ม 4 ออนซ์ ไอศกรีมวนิลา 4 ออนซ์ ดอกกระหล่ำต้ม 4 ออนซ์ แคนตาลูป 1/2 ผล
หมายเหตุ
2. แคร๊กเกอร์ต้องเป็นรสเค็ม
3. ปลาทูน่าและถั่วฝักยาวอาจแช่แข็งได้
• ขนมปัง ให้ปิ้งจนแห้ง ไม่ทาอะไรเลย• เนื้อ – ต้องไม่ติดมัน นึ่งหรือย่างเท่านั้น
• ผัก – จะต้มจิ้มน้ำจิ้ม หรือยำก็ได้ เช่น แครอท ดอกผักกาด
• ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ หรือ ดื่มน้ำส้ม
• โยเกิร์ต ทานครั้งละถ้วยเล็ก ๆ ต่อวัน
• ผลไม้ เช่น ส้ม สับปะรด แคนตาลูป แอปเปิ้ล กล้วย
• เครื่องดื่มต้องไม่ใส่น้ำตาล(4 ออนซ์ = 100 กรัม = 1 ขีด)ได้มาจาก

http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L3783002/L3783002.html โดย คุณโคอาล่าน้อย





สูตรลดความอ้วน สูตรที่ 5วัน

ที่ 1เช้า ชา กาแฟ น้ำส้ม ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น ไข่ต้ม 1 ฟอง ผักต้ม ผลไม้ น้ำเปล่ากลางวัน ชา กาแฟ น้ำส้ม ปลานึ่ง ผักต้ม ขนมปังปิ้ง น้ำเปล่าเย็น ผักต้มต่าง ๆ เนื้อย่างหรือนึ่ง น้ำส้ม น้ำเปล่า
วันที่ 2เช้า น้ำส้ม นมสด ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น ไข่ต้ม 1 ฟอง ผลไม้ น้ำเปล่าเยอะ ๆกลางวัน น้ำส้ม ขนมปังกรอบ ผักสดจิ้มน้ำจิ้ม ผลไม้ ยำผักต่าง ๆเย็น น้ำส้ม เนื้อปลานึ่ง ผลไม้ นมสด
วันที่ 3เช้า น้ำส้ม นมสดแก้วเล็ก ขนมปังปิ้ง ผลไม้ โยเกริ์ตกลางวัน น้ำส้ม ขนมปัง ไข่ต้ม ผักต้มหรือยำผัก ส้มตำ ปลา/เนื้อนึ่ง
ผักต้มเย็นน้ำส้ม น้ำเปล่า ผลไม้ นมสดได้มาจาก http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L3783002/L3783002.html%20โดย%20คุณโคอาล่าน้อย


สูตรลดความอ้วน สูตรที่ 6
สูตรพระเทพ
วันที่ 1เช้า - น้ำผลไม้คั้น หรือ โยเกิร์ต 1 ถ้วยกลางวัน - ไข่ต้ม 2 ฟองเย็น - สลัดผัก
วันที่ 2เช้า - น้ำผลไม้คั้น หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วยกลางวัน - ไข่ต้ม 2 ฟองเย็น - โยเกิร์ต 1 ถ้วย
วันที่ 3เช้า - กาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วย หรือ โยเกิร์ต 1 ถ้วยกลางวัน - เกาเหลาลูกชิ้น 1 ชาม (เนื้อ, หมู)เย็น - สับปะรด 1 ชิ้น
วันที่ 4เช้า - น้ำผลไม้คั้น หรือ กาแฟและขนมปัง 1 แผ่นกลางวัน - สลัดผักและไก่ย่าง 1 ชิ้นเย็น - โยเกิร์ต 1 ถ้วย
วันที่ 5เช้า - น้ำผลไม้คั้น หรือ กาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วยกลางวัน - ส้มตำและไก่ย่าง 1 ชิ้นเย็น - สลัดผัก
วันที่ 6เช้า - น้ำผลไม้คั้น หรือ กาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วยกลางวัน - ปลานึ่ง หรือ ปลาเผาไม่จำกัดเย็น - นมสด 1 แก้ว
วันที่ 7เช้า - ข้าว 1 ทัพพี และเนื้อ 1 ชิ้น หรือไข่ต้ม 1 ฟองกลางวัน - เกาเหลาลูกชิ้น 1 ชาม (เนื้อ, หมู)เย็น - สับปะรด 1 ชิ้น

วิธีประหยัดไฟ

วิธีประหยัดไฟจากการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักรยนต์ ในชีวิตประจำวัน

-ใช้แอร์ระบบตั้งเวลาให้ปิดก่อนเวลาตื่น 1 ชั่วโมง
-ปิดแอร์ที่ทำงาน ½ - 1 ชั่วโมงก่อนเวลาเลิกงาน หากมีการทำ OT ใช้พัดลมไอน้ำแทนได้
-นั่งทำงานในที่มีแสงสว่างเพียงพอ ลดการใช้ไฟโคมบนโต๊ะทำงานได้
-เปิดไฟแสงสว่างในที่ทำงานเฉพาะจุดที่จำเป็น คนที่ไม่มาทำงานหรือกลับบ้านแล้ว ต้องปิดไฟบริเวณนั้นให้หมด
-ปิดไฟดวงที่ไม่ใช้ เปิดเฉพาะที่จำเป็น ทางที่ดีรวบรวมคนทั้งบ้านมานั่งล้อมวงทานข้าว เล่าเรื่อง สังสรรค์พร้อมหน้าพร้อมตากันยามค่ำทุกวัน จะได้ใช้ไฟดวงเดียว
-เดินทางไปไหนคนเดียว ไม่จำเป็นอย่าขับรถ ใช้รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน และรถโดยสารแทน
-สมานฉันท์กับเพื่อนบ้านที่ทำงาน โรงเรียนลูก ใกล้กันหรือทางเดียวกัน นั่งรถไปทำงาน หรือส่งลูกคันเดียวกัน อาจจะขับให้กันฟรีๆหรือเหมาคิดค่าน้ำมันรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน
-หากมีทุนสักหน่อย ให้ปูแผ่นกันความร้อนบนฝ้าเพดานทั้งบ้าน กันความร้อนจากแสงแดดเข้าสู่ตัวบ้าน ลด--การใช้พลังงานจากการทำงานของเครื่องทำความเย็นในบ้านได้
-ใช้ระบบไหลเวียนของน้ำ พรมหลังคาให้เย็นตลอดเวลา
-ใช้ระบบไหลเวียนของอากาศ ปัดลมร้อนออกไปจากรัศมีตัวบ้าน อาจจะเพียงแค่เปิดหน้าต่างมุมที่รับลม หรือติดตั้งตัวหมุนบนหลังคา
-ปลูกบ้าน อาคาร ต้องดูทิศทางลม และแสงแดด อย่าหันหน้าบ้าน ไปทางทิศตะวันตกเพราะจะทำให้ร้อนไปถึงตอนกลางคืน
-ทาสีภายนอกอาคารให้สะท้อนแสง และภายในอย่าใช้สีทึบ
-หลีกเลี่ยงการใช้กำแพง หน้าต่าง กระจกบนตัวอาคาร หากใช้ก็ให้ติดฟิล์มกรองแสง เพื่อกันความร้อนเข้าตัวอาคาร และไม่สะท้อนแสงและความร้อนออกไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น
-[EGAT] ปิดพัดลมระบายอากาศในห้องแอร์ได้ หากในห้องไม่มีกลิ่นจากควันบุหรี่ อาหาร ควัน ฝุ่นไอ อันไม่พึงประสงค์ เพื่อลดปริมาณอากาศร้อนจากภายนอกเข้ามาเป็นเหตุให้เครื่องปรับอากาษต้องทำงานหนักขึ้น
-[EGAT] ตั้งให้คอมพิวเตอร์ปิดหน้าจอโดยอัตโนมัติ เมื่อไม่ใช้งานสักระยะหนึ่ง ทั้งประหยัดไฟและลดการทำงานของระบบทำความเย็น
-[EGAT] เปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 28-30 C แล้วเปิดพัดลมควบคู่เพื่อเพิ่มความเร็วลม จะเย็นเหมือนเปิดที่ 25-26 C เพราะความเย็นเกิดจากความสัมพันธ์ของ อุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ และความเร็วของลม
-[EGAT] จัดห้องให้ตู้ ชั้นวางของอยู่ติดกำแพงด้านตะวันออกและตะวันตกที่ต้องรับไอแดด ช่วยดูดซับความร้อนและลดการแผ่รังสีความร้อนของกำแพง
-[EGAT] ปิดแอร์เมื่อไม่ใช้งาน และอย่าเปิดช่องให้ความเย็นออก ใช้วิธีเปิดพัดลมช่วย เพื่อประหยัดพลังงานตอนเปิดแอร์ใช้อีกครั้ง
-[EGAT] เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ตู้เย็น หม้อต้มน้ำ ต้มกาแฟ เคนื่องถ่ายเอกสาร เป็นต้น จะปล่อยความร้อนออกมา จึงไม่ควรไว้ในห้องแอร์
-[EGAT] งดสูบบุหรี่ สร้างมลพิษในอากาศในห้องที่ปิดทึบ ห้องแอร์ เพราะจะทำให้ต้องมีการเปิดพัดลมเพื่อระบายออก มีผลให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้นเพราะอากาศร้อนภายนอกเข้ามา และฝุ่นละอองไปจับที่คอลย์น้อย ทำให้ต้องมีการบำรุงรักษาบ่อยขึ้น
-[EGAT] ปิดช่องโหว่ รูรั่วตามกำแพง ปิดม่านบังแสง เพื่อมิให้ความร้อนจากภายนอกเล็ดลอดเข้ามา และม่านยังช่วยสะท้อนความร้อนออกไป
-[EGAT] ใช้โคมไฟแสงสว่างในที่ทำงาน แบบที่มีแผ่นสะท้อนแสงช่วยลดจำนวนหลอดไฟ
-[EGAT] ใช้หลอดผอม หรือ หลอดคอมแพค ประหยัดไฟ หมั่นทำความสะอาด อย่าให้ในจับจนแสงพร่ามัว -[EGAT] ใช้ตู้เย็นประตูบานเดียว ที่มีช่องแช่แข็งอยู่ด้านบน ประหยัดไฟกว่า ตั้งอุณหภูมิที่ 3-6 C ชองแช่แข็งตั้งที่ ลบ15-18 C ประหยัดที่สุด
-[EGAT] หมั่นทำความสะอาดแผงระบายความร้อนหลังตู้เย็น ดูแลยางขอบประตูให้ปิดสนิทอยู่เสมอ อย่าเปิดปิดบ่อย อบ่านำของร้อนเข้าตู้เย็น
-[EGAT] ตรวจสอบว่ามีไฟรั่วไปทางสายดินหรือไม่ โดยปิดสวิทช์ไฟทุกอย่าง แล้วดูมิเตอร์ว่ายังเดินอยู่หรือไม่ สำหรับตู้เย็นให้เปิดไว้ขณะปิดอย่างอื่นหมด แล้วปรับสวิทชฺควบคุมอุณหภูมิลงจนต่ำสุดให้อมเพรสเซอร์หยุดทำงานก่อน ไปสังเกตุมิเตอร์ไฟฟ้า
-[EGAT] เลือกใช้เครื่องปรับอากศที่มีขนาดพอเหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ และติดตั้งในตำแหน่งที่ไม่ถูกแสงแดด ความร้อนโดยตรง และระบายอากาศได้ดี

13-14 ตร.ม. ใช้ 8000 BTU
16-17 ตร.ม. ใช้ 10000 -BTU
20 ตร.ม. ใช้ 12000 BTU
23-24 ตร.ม. ใช้ 14000 BTU
30 ตร.ม. ใช้ 18000 BTU
40 ตร.ม. ใช้ 24000 BTU
-ท้ายสุดแต่ใช่ว่าจะสุดท้ายค่ะยิ่งใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักรยนต์น้อยเท่าไหร่ ยิ่งประหยัดพลังงาน เชื้อเพลิงได้มาก ฉะนั้น จึงควรจัดสภาพแวดล้อมที่พักอาศัย ที่ทำงาน วิถีการดำรงชีวิตให้เหมาะสม การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย มองผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นใหญ่ การหาและใช้พลังงานทดแทนที่ไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อธรรมชาติ และการดูแลสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ ให้ดี เพื่อช่วยกันทำให้โลกเราอยู่ได้นานขึ้น และลูกหลานเราก็จะมีที่อยู่อาศัยต่อไปค่ะ เรามาตั้งธงกันว่า ต่อไปนี้ จะทำอะไร ให้คำนึงถึงเรื่อง- ประหยัดพลังงาน- ไม่สร้างมลภาวะในอากศ น้ำ ผืนดิน- ขจัดและลดภาวะโลกร้อน

วิธีคลายร้อนแบบไทยๆ แบบทำได้เอง ง่ายแสนง่าย

วิธีคลายร้อนแบบไทยๆ แบบทำได้เอง ง่ายแสนง่าย
-เดิน นั่งเล่น ทานอาหาร ห้างสรรพสินค้า ได้แอร์โดยไม่ต้องเปิดแอร์เองที่บ้าน หาเก้าอี้สาธารณะแล้วนำอาหารไปทานเองจากบ้านก็ได้ ไม่เปลืองสตังค์ มาถึงยุคนี้แล้ว ไม่ต้องอายค่ะ ทำไปก่อนค่ะ เดี๋ยวมีคนทำตามเพียบ!
-เข้าโรงหนัง ระหว่างนั่งรอหนังเข้า ก็เอามือถือมาเปิด oknation wap เล่นบล็อกซะ
-เข้าไปนั่งอ่านหนังสือ ทำงานที่ห้องสมุดที่เปิดแอร์อยู่แล้ว
-ไปนั่งพักผ่อนใต้ต้นไม้ ตามสวนสาธารณะ สถานที่คุ้นเคย มีคนรู้จักแถบนอกเมือง
-หยุดวันสองวันก็ปิดบ้านหนีร้อนไปเที่ยวน้ำตก หรือทะเลบ้าง
-อาบน้ำบ่อยๆ นอนแช่น้ำให้คลายร้อน (โดยไม่ต้องใช้เครื่องทำน้ำอุ่น)
-ทาแป้งเย็น หรือประดินสอพอง ให้ตัวลายพร้อย เปิดหน้าต่างรับลม
-เอาผ้าขนหนูผืนเล็กๆชุบน้ำแช่ในช่องแข็ง หรือแช่เย็นไว้หลายๆผืน ควรหาอะไรใส่หุ้มไว้ทุกผืน ป้องกันไม่ให้ติดกัน หรือเปรอะเปื้อน เอาออกมาเช็ดหน้า เช็ดตัว พาดไว้ที่คอ คลายร้อนได้ดี
-ซื้อถาดทำน้ำแข็งไว้เยอะๆ ทำน้ำแข็งใส่ที่เก็บน้ำแข็งไว้ให้มีใช้ตลอดเวลา
-ทำน้ำเย็นใส่กระติกไว้ทาน (เหยาะน้ำยาอุทัย สักนิดให้ชื่นใจก็ได้) ใส่กระติกใบเล็กสำหรับพกออกไปนอกบ้าน ไม่ต้องไปซื้อน้ำเย็น น้ำแข็งใสที่ไหน
-ทำไอศครีมหรือหวานเย็นทานเอง จะใช้น้ำผลไม้คั้นสดๆ (คั้นด้วยมือ) ผสมน้ำผึ้ง น้ำเชื่อม เกลือนิดหน่อย หรือ ใช้น้ำแข็งทุบละเอียดใส่น้ำหวาน
-พื้นบ้านหลังจาก ถูด้วยผ้าเปียกใหม่ๆจะรู้สึกเย็นสบาย วันนี้คุณถูบ้านหรือยัง?
เอาผ้าชุบน้ำ หรือถุงผ้าชุบน้ำใส่น้ำแข็ง แขวนไว้หน้าพัดลม ก็เย็นเหมือนเปิดแอร์ (ถ้าขี้เกียจเดินเอาผ้าไปชุบน้ำบ่อยๆ ให้ใช้ผ้ายาวหน่อย จับปลายด้านล่างแช่น้ำ หรือน้ำแช่น้ำแข็งในถังวางไว้หน้าพัดลมเลยค่ะ)
ทำราวแขวนผ้าในบ้าน ย้ายผ้าสะอาดๆที่หมาดแล้วมาตากในบ้าน ให้พัดลมพัดเฉี่ยวๆเอาลมเย็นมาปะทะตัวเรา
-ใส่เสื้อผ้าที่ทำจากใยธรรมชาติ งดผ้าที่ทำจากใยสังเคราะห์
-ประพรมน้ำอบน้ำหอม เครื่องหอมไทย กลิ่นหอมของสมุนไพรไทย มีส่วนช่วยกระตุ้นระบบประสาท เมื่อได้กลิ่นจะทำให้มีความรู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์ดี ทำให้มีความสดชื่น
-ไปนั่งบ้านเพื่อน ที่เขาจำเป็นต้องเปิดแอร์อยู่แล้ว ....อย่างนี้เรียก แอร์แชริ่ง ค่ะ หากไม่จำเป็นไปใช้พัดลมไอน้ำด้วยกันก็ดีค่ะ

เต้นแอโรบิก

เต้นแอโรบิก ได้อะไรมากกว่าที่คุณคิด




การเต้นแอโรบิกนอกจากจะช่วยเผาผลาญไขมัน ลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วนแล้ว คุณรู้ไหมว่า มันยังช่วยอะไรกับเราอีก.. นอกจากผอมแล้ว ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกด้วยนะจ๊ะก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่าการเต้นแอโรบิกเนี่ย มันคืออะไร.. มันก็คือการขยับร่างกาย ให้กล้ามเนื้อมีการทำงานต่อเนื่องทุกสัดส่วน เมื่อกล้ามเนื้อมีการทำงานตลอด มันก็จะเป็นการสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ไม่หย่อนคลอยตามแรงโน้มถ่วงของโลกก่อนวัยอันควร แต่สิ่งที่ได้เพิ่มเติมมาก็คือ
1. ทำให้ระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้น - เวลาเราออกกำลังกาย โดยเฉพาะแอโรบิกนั้น จะเป็นการออกกำลังกายแบบเกือบจะทุกสัดส่วน เพราะว่ามันต้อง เคลื่อนไหวตลอด เมื่อเคลื่อนไหว ร่างกายจะสูบฉีดเลือด ทำให้หัวใจทำงาน (บริหารหัวใจกล้ามเนื้อหัวใจให้แข็งแรงไปด้วย : แต่ไม่เกี่ยวกับบริหารรักนะจ๊ะ 555555) - ช่วยเพิ่มเส้นเลือดฝอยมาเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจมากขึ้น ทำให้ระบบการไหลเวียนเลือดดีขึ้น - ลดอัตรการเต้นของหัวใจ เมื่ออยู่ในภาวะการออกกำลังกาย เมื่อกล้ามเนื้อเราแข็งแรง เราจะออกกำลังกายได้ดี ไม่ค่อยเหนื่อย ลองนึกถึงแรกๆ เราไปเต้นแอโรบิกดูดิ.. เหนื่อยลิ้นห้อยเลย เต้นตามไม่ทันอีกต่างหาก พอเต้นไปสัก 1 อาทิตย์ ร่างกายเริ่มเข้าที่ เริ่มเหนื่อยช้าลง - เมื่อกล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง ก็ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคความดันโลหิตสูง เพราะว่าหัวใจเราสูบฉีดแรงอยู่แล้ว เส้นเลือดต่างๆ ก็ไม่อุดตัน ความดันเลยปกติ
2. ระบบหายใจดีขึ้น- ปอดมีการรับออกซิเจนมากขึ้น หายใจได้ลึกขึ้น ปอดมีการขยายมากขึ้น - เมื่อปอดขยาย และรับออกซิเจนมากขึ้น ร่างกายก็รับออกซิเจนมากขึ้น ทำให้การไหลเวียนของอากาศในปอดทำงานได้ดีขึ้น - เมื่อมีออกซิเจนมากขึ้น การแลกเปลี่ยนก๊าซที่ปอด ก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยิ่งเราออกกำลังกาย ในสถานที่มี ออกซิเจนมากๆ เช่น ตามสวนสาธารณะ ที่มีออกซิเจนบริสุทธิมากๆ ปอดก็จะได้รับออกซิเจนที่มีคุณภาพมากขึ้นด้วย
3. ระบบเคมีในเลือกดีขึ้น- การออกกำลังกายเป็นการเผาผลาญไขมัน เมื่อไขมันในร่างกาย (ในเส้นเลือดคนเราก็มีนะค่ะ) ถูกใช้ไป เลือดของเราก็เดินทางได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ทำให้ปริมาณไขมันในเลือด (คอเลสเตอรอล) ลดลง และไตรกลีเซอไรด์ ลดลงเช่นกัน ทำให้ลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน แลโนคหลอดเลือดสมองอุดตัน - เพิ่ม HDL (คอเลสเตอรอล ตัวดี ที่ร่างกายต้องการมาก และจะเพิ่มได้ด้วยการออกกำลังกายเท่านั้น) ซึ่งเป็นตัวช่วยลดการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน - ลดน้ำตาลส่วนเกิน ป้องกันโรคเบาหวาน เพราะว่าเวลาเราออกกำลังกาย ร่างกายจะต้องใช้พลังงานมาก ร่างกายจะไปดึงเอาน้ำตาลมาแปลงเป็นพลังงาน ทำให้ระดับน้ำตาลส่วนเกินในเลือดต่ำลง ลดความเสี่ยงการเป็นโรคเบาหวานได้ค่ะ
4. ด้านระบบประสาทและจิตใจ- ลดความเครีดยได้ดีค่ะ เพราะว่าการออกกำลังกายนั้น คุณจะไม่ค่อยได้คิดเรื่องที่เครียด ใจจะจดจ่อกับการเต้น (แต่บางทีเต้นไม่ทัน ก็เครียดแหะ T__T ฮือๆๆๆ) - เวลาเหงื่อออกจนถึงระดับนึง ร่างกายจะหลั่งสาร Endorphin จากสมอง เป็นสารที่ทำให้ร่างกายรู้สึกสบายค่ะ รู้สึกปลอดโปร่ง (ต้องลองเองค่ะ บรรยายมะถูกอะ)
จะเห็นว่าการออกกำลังกายด้วย แอโรบิกเนี่ย มันดียังไงแล้วนะค่ะ (ที่สำคัญ ส่วนมากไปเต้นตามสวนสาธารณะ จะเต้นฟรีค่ะ) ก็อย่าลืมไปลองเต้นดูนะค่ะ

อาหารเพื่อสุขภาพ

สลัดน้ำใส
ข้าวโอ๊ตนมสด
กุ้งกระเทียมผัดพริกขี้หนู
ไก่อบหอมใหญ่
ผัดผักรวมมิตรกับงาขาว
ลูกชิ้นแครอท
ผัดหมีเต้าเจี้ยว
ปลากระพงนึ่งมะนาว
ยำใบบัวบก
เมี่ยงคำ
เต้าหู้ทอดตะไคร้ใบสะระแหน่
โจ๊กเห็ดหอม
ฟองเต้าหู้ห่อผัก
เปาะเปี๊ยะญวณ
ปลาต้มสมุนไพร
ปลานึ่งเต้าซี่
พาสต้าปลาแซลมอน
แกงขี้เหล็กปูทะเลไข่
มะระตุ๋นผักดอยดอง
ผัดหอมใหญ่หมูพริกสด
ข้าวต้มสมุนไพร
มิโซ่ซุป
เต้าหู้ราดหน้าเห็ด
สลัดผักสีทอง
อบหน่อไม้เห็ดหอม
ต้มจืดเห็ด
มะระขี้นกผัดไข
ข้าวไข่เจียวหัวหอม
แกงขนุน
แกงเหลือง
กุ้งตะไคร้
สลัดผลไม้
ข้าวยำปักษ์ใต้
แกงเลียงข้าวโพด
แกงฟักทองใส่ใบแมงลัก
ผัดกะเพราเห็ดฟาง
ผัดกระเจี๊ยบกุ้งสด
เต้าหู้ผัดถั่วงอกโยคี
แกงส้ม
ต้มยำกุ้ง
จับฉ่ายชีวจิต